๑) แยกขยะให้ได้
การแยกขยะ หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นเหมือนประตูบานแรกและบานเดียวที่จะนำไปสู่การ "ลดขยะ" (Reduce) นิสิต มมส. ประชาชน คนหอพัก ครัวเรือน ร้านค้า ร้านอาหาร ทุกคนสร้างขยะต้องหันมาแยกขยะกันอย่างจริงจัง โดยวิธีที่ง่าย ๓ ขั้นการตัดสินใจ ดังนี้
- ข้้นที่ ๑ ตัดสินใจว่า จะก่อขยะหรือไม่ก่อขยะ
- จะไม่ใช้...เพราะหากใช้ไปแล้วจะทำให้เกิดขยะ ก็คือ ลดปริมาณการใช้สิ่งใดๆ ที่จะทำให้เกิดขยะ หรือ (Reduce)
- จะใช้... เพราะจำเป็น ใช้แล้วสะดวกดี คุ้มค่า
- ขั้นที่ ๒ ตัดสินใจว่า มันคือขยะหรือไม่ใช่ขยะ
- ไม่ใช่ขยะ... มันไม่ใช่ขยะ สามารถนำมาใช้ใหม่ (Reuse) ได้ เช่น ถุงก๊อปแก็บที่ยังไม่เปอะเปื้อน กระดาษหน้าเดียว ขวดโหล ขวดขุ่น ฯลฯ
- ใช่ขยะ มันคือขยะ ...ต้องจัดเก็บหรือจัดการ
- ขั้นที่ ๓ ตัดสินใจว่า มันคือขยะประเภทใดจะจัดการอย่างไร
- มันอันตรายไหม เป็นสายเคมี แบตเตอรี่ หลอดไฟ หรืออะไรที่เป็นสารพิษ ถ้าใช่ เรียกว่า ขยะอันตราย ...ทิ้งในกระปุก
- มันย่อยสลายได้ไหม ถ้าได้ เรียกว่า ขยะอินทรีย์ ... ทิ้งในถัง
- ถ้ามันย่อยสลายไม่ได้ เก็บไว้ขายได้ไหม ถ้าได้ เรียกว่า ขยะรีไซเคิล (Recycle) ...ทิ้งในลัง
- ถ้าย่อยสลายไม่ได้ เก็บไว้ขายก็ไม่ได้ เรียกว่าขยะทั่วไป ตัดสินใจต่อไปว่า
- แห้งไหม ... ถ้าแห้งให้ทิ้งในถุง
- ไม่แห้ง ให้ล้าง คว่ำ ตากไว้ ให้แห้ง แล้วทิ้งในถุง
การลงมือทำด้วยตนเอง ทำให้รู้ว่า สิ่งที่ชุมชนบ้านหัวถนนบอกนั้นเป็นจริง ขยะอินทรีย์จะมีปริมาณคิดเป็นประมาณร้อยละ ๘๐ ของขยะทั้งหมด ทำให้สามารถลดภาระการจัดเก็บไปได้มากๆ จึงขอเสนอวิธีการแยกขยะดังที่กล่าวมา (ดูรูปประกอบ)
๒) ทิ้งขยะแบบ "รู้กัน"
การทิ้งขยะแบบ "รู้กัน" คือ การทิ้งขยะแบบที่ผู้จัดเก็บขยะหรือผู้จัดการขยะ "รู้เรื่อง" และสะดวกต่อผู้จัดเก็บและง่ายต่อการนำไปจัดการ ขอเสนอวิธีด้ังนี้ (ดูภาพประกอบ)
- ขยะอินทรีย์ ให้ทิ้งลงถังใบเล็กๆ (ที่บ้านใช้ถังพลาสติกที่เคยใส่ข้าวโพดคั่ว) ขนาดหนักสัก ๑-๒ กิโลกรัมเศษอาหาร วางไว้ข้างๆ ซิงค์ล้างจาน ทุกวันตอนเย็นหรือเมื่อเต็ม ให้เอาไปทิ้งเก็บไว้ในถังพลาสติกดำขนาด (๑๐๐ ลิตร) ซึ่งมีฝาปิดมิดชิด
- หากอยากหมักเป็นปุ๋ยน้ำหมัก ให้ใส่เศษใบไม้และกากน้ำตายด้วย
- หากไม่อยากยุ่งยาก ก็ให้เก็บไว้ไปฝังดินเป็นปุ๋ยหมัก (ตรงนี้แหละที่เทศบาลน่าจะมีรถมาเก็บทุกวัน)
- ขยะรีไซเคิล ส่วนใหญ่ คือ ขวดพลาสติกใส (พลาสติกขุ่น ต้นทุนกระบวนการรีฯ แพง เขาจึงไม่ซื้อ) ขวดแก้ว กระดาษทุกชนิด และโลหะต่างๆ ให้ทิ้งในลัง ดังนี้
- ลังกระดาษใบใหญ่ๆ ไว้สำหรับเก็บกระดาษทุกชนิด (เก็บรวมกันได้เลย ตอนเขามารับซื้อถึงบ้าน เขาจะแยกชั่งเอง)
- ขวดพลาสติกใส ให้ทิ้งในลัง.... ทิ้งในลังไม้ (ผมใช้ลังไม้หวาย หรือ ถุงผ้าดางแหล่ ...ฮา ดูรูป) เพราะเวลาเราทิ้งขวดมักจะเปียกอยู่ ให้มันระบายแห้งเอง
- ขยะทั่วไป ล้างตากให้แห้งแล้วทิ้งในถุง อาจเป็นถุงดำหรือถุงขยะที่เขาเรียกว่า "ถุงขยะ" สำคัญคือ ต้องตากให้แห้ง ขยะส่วนใหญ่ในยุคซื้อกินแบบนี้ โดยเฉพาะนิสิตที่ไม่ได้ทำกำข้าวเอง จะก่อขยะแบบนี้เยอะ ปัญหาคือ ถุงใส่อาหารเหล่านี้ มักถูกทิ้งเลยทั้งๆ ที่ยังเปียก (ที่บ้านเราล้างตากเหมือนจาน โดยใช้น้ำยาล้างจานราคาถูกแบบถังใหญ่) เมื่อแห้งแล้วก็เก็บไปทิ้งกับที่ทิ้งขยะ คนเก็บขยะนำไปเผาได้เลย
- ขยะอันตรายให้ทิ้งในกระปุกพลาสติก ที่ปิดมิดชิด เมื่อได้ปริมาณหนึ่งก็ให้เอาไปทิ้งที่ๆ เขาจัดเว้ต่างหาก เพื่อนไปทำลายอย่างถูกวิธีต่อไป
๓) เทศบาลจัดเก็บและจัดการอย่างเป็นระบบ
สมมติว่า เราสามารถทำให้นิสิต มมส. มีวิธีการคัดแยกและทิ้งขยะแบบที่ผ่านมา ต่อไป ต้องขอเสนอเทศบาลบ้านท่าขอนยางให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
- ขยะอินทรีย์
- จัดหาพื้นที่ฝังกลบขยะอินทรีย์ที่ไม่ไกล อาจจะรับอาสาสมัครใจจากชาวบ้าน เพราะชาวบ้านจะได้ประโยชน์มาก ที่นา ที่สวน จะได้ปุ๋ย
- จัดให้ทุกบ้าน ทุกครัวเรือน ทุกหอพัก ทิ้งขยะอินทรย์ในถังดำ
- มีรถจัดเก็บขยะอินทรีย์ทุกวันเช้า-เย็น
- ขยะทั่วไป
- เนื่องจากปริมาณขยะจะลดลงมากแล้ว เพราะแยกขยะอินทรีย์ออกไป ดังนั้น จัดให้มีรถจัดเก็บเพียง ๒ วันต่อสัปดาห์ คือ อังคารและศุกร์
- จัดสร้างเตาเผาขยะหรือโรงเผาขยะ เพื่อเผาขยะทันทีที่นำขยะไปถึง
- ขยะรีไซเคิล
- จัดให้มีการรับซื้อขยะราคาดี มีที่ติดต่อให้ไปรับซื้อถึงที่ โดยกำหนดว่าต้องมีน้ำหนักเท่าใดๆ เป็นต้น
- ขยะอันตราย ให้จัดเก็บเดือนละครั้งก็พอ เช่น เก็บวันพุธสุดท้ายของเดือน เป็นต้น เพื่อนำไปทิ้งหรือทำลายอย่างถูกต้องปลอดภัย
๔) วิธีการทำให้งานนี้ให้สำเร็จ
- สามัคคีรวมพลัง สำนักศึกษาทั่วไป จะเป็นผู้ประสานงาน ให้ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ นิสิต บุคลากร ผู้นำชุมชน ชุมชน และคนก่อขยะทั้งมวล มาคุยกันให้เกิดแนวทางที่เห็นสมควรร่วมกัน
- รายวิชาศึกษาทั่วไปที่เกี่ยวข้อง ต้องเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจัง
- อาจารย์ผู้สอนรายวิชาศึกษาทั่วไป ต้องช่วยกันพูด ช่วยกันคุย ช่วยกันบอก ให้นิสิตเราเอาจริงเรื่องนี้
- รายวิชาหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน ควรจะรวมพลังกันจัดการเรื่องนี้ในปีการศึกษาที่ ๒-๒๕๖๑ นี้
ตั้งใจจริงๆ ว่าจะลุยไปแบบนี้ ท่านว่าดีไหมครับ
(เพิ่งจะขายไป ได้เงินมา ๑๐ บาท)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น