เกริ่นก่อน (สิ่งที่ผมเพิ่งจะเข้าใจเป็นครั้งแรก)
- เพิ่งเข้าใจว่า ทำไมการศึกษาไทยสมัยใหม่จึงล้มเหลว ล้มเหลวในที่นี้ หมายถึง การศึกษาสมัยนี้ทำให้คนทิ้งถิ่น ทิ้งบ้านทิ้งเรือน
- เพิ่งเข้าใจว่า "คนจนเขาทำงานแบบไหน" ทั้งๆ ที่ผมเองก็ผ่านความยากจนแบบนั้นมากด้วยตนเอง แค่ฟังท่านพูด ภาพในอดีตทั้งหลายมันรวมลงในใจผมว่า ใช่ ใช่เลย ตอนเด็กๆ พ่อแม่ก็สอนแบบนี้... ผมลืมคำสอนของท่านไปนานกี่ปีเนี่ย
- เพิ่งจะเข้าใจว่า หนังสือพระราชนิพนธ์ "พระมหาชนก" ตีความว่า "ต้นมะม่วง" ก็คือ "ประเทศไทย" ... ในใจมีเสียงกังวาลว่า ...อ้อ...เข้าใจแล้ว
การศึกษาแบบคนจน-คนรวย
- คนจนตั้งตนอยู่ในความลำบาก (ฝืนกิเลส) กุศลจึงเจริญ ผู้คนจึงใจดี มีเมตตา เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน ... แต่การศึกษาในปัจจุบัน สอนให้นิสิตนักศึกษา ตั้งตนอยู่ในความสบาย (ตามใจกิเลส) สังคมจึงเสื่อมลงอย่างเห็นได้ชัด
- คนจนตื่นตี ๔ เริ่มเรียนรู้และทำงานตอนตี ๕ นอนเร็ว ตื่นเช้า เข้าวัดวันโกณวันพระ แต่การศึกษาสมัยใหม่ ทำให้คน ตื่นสาย นอนดึก เที่ยวกลางคืน ไม่เข้าวัด หยุดเสาอาทิตย์
- การศึกษาแบบคนรวย(แบบทุนนิยม) ทำให้คนทิ้งถิ่น ยิ่งเก่งยิ่งทิ้งชุมชนเร็ว ใครเก่งที่สุดจะถูกส่งเสริมให้ทิ้งบ้านเข้าเมือง เมื่อสำเร็จการศึกษาได้ทำงานที่ตั้งตนอยู่ในความสบาย หาเงินเพื่อซื้อความสบาย นำเงินซื้อความสบายให้พ่อแม่ที่อยู่ที่บ้าน .... จึงกระตุ้นให้คืนอื่นๆ เกิดกิเลสอยากสบายและมีหน้าตาเป็นเจ้าเป็นนายบ้าง จึงแห่กันทิ้งบ้านทิ้งเรือนเข้ากรุงมุ่งหาเงินซื้อข้าวกิน (ทั้งที่ตนเองปลูกกินเองได้) ... จนเป็นที่มาของหนี้สินและความจน(จริง)
- คนที่เคยสบายแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะกลับไปลำบาก(กาย) ยิ่งเด็กรุ่นหลังที่ไม่ได้รับการปลูกฝังให้ผ่านการตั้งตนอยู่ในความยากลำบากกับชีวิต "แบบคนจน" เลย จึงไม่มีทางที่การศึกษาแบบคนรวย จะทำให้คนกลับไปอยู่บ้านเกิดภูมิลำเนาของตนเอง
การศึกษาแบบคนจน
- คือการศึกษาบนฐานชีวิตจริงๆ ของชาวบ้าน มีลำดับขั้นการศึกษาพัฒนา ๓ ขั้นตอน คือ
- การศึกษาเพื่อให้เป็นผู้มีวินัย มีคุณธรรม ... เป็นคนดี มีสัมมาสามัญสำนึก
- การศึกษาเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพ ทำมาหากินได้ (สัมมาอาชีวะ) ... พึ่งตนเอง
- การศึกษาให้เกิดความเชี่ยวชาญ เป็นปราชญ์ เป็นครู พัฒนาต่อยอดหรือสร้างภูมิปัญญา และสอนลูกหลานต่อไป ...แบ่งปัน ช่วยเหลือคนอื่นได้
- วิธีการศึกษาแบบคนจน ควรจะ
- ฝึกให้ชินกับการฝืนกิเลส รู้จักกิเลส เอาชนะกิเลส โดยการสร้างปัญญาในตนเอง เช่น
- สอนให้รู้จักศีล เบญจศีล เบญจธรรม
- ตื่นเช้า (กิเลสชอบนอนตื่นสาย) เพียรทำงานหนัก (กิเลสชอบสบาย) ขยัน (กิเลสชอบขี้เกียจ)
- ฝึกวินัยในทุกกิจกรรม ทุกกิจวัตร ทุกอริยาบท (ปูพื้นไปสู่การปฏิบัติธรรม เจริญสติ เจริญปัญญาภายใน) ตั้งแต่เท้าถึงเส้นผม ตั้งแต่รองเท้าถึงหมวก ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ตั้งแต่ตื่นจนหลับ
- เข้าวัด ฟังธรรมะ เสียสละ ทำเพื่อสวนรวม ผ่านกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ พร้อมๆ กับการรักษาและทำนุวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของบรรพบุรุษ (บวร บ้าน วัด โรงเรียน)
- ฝึกให้รู้สึกปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดำเนินชีวิตและพัฒนาชีวิตตามลำดับขั้นด้วยความรู้และความดี
- พอกิน
- พอใช้
- พออยู่
- พอร่มเย็น
- สั่งสมบุญ เริ่มจากการดูแลตอบแทนบุญคุณ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา ญาติ มิตร สหาย และผู้มีพระคุณทั้งหลาย
- ทำทาน อามิสทาน อภัยทาน ธรรมทาน ฯลฯ
- ขาย ค้าขายแลกเปลี่ยน ขยายความความสุขความสำเร็จให้เจริญขึ้น
- ร่วมตัวกันสร้างเครือข่าย สู่ความสามัคคี พอเพียง มั่งคั่ง ยั่งยืน
ผมยอมรับว่า เพิ่งจะเข้าใจก็คราวนี้เองว่า ที่ในหลวง ร.๙ ทรงตรัสว่า "ให้ทำแบบคนจน" นั้น สำหรับด้านการศึกษาเป็นแบบนี้เอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น