ข้อความตอนหนึ่งในเล่มรายงานการวิจัย เขียนว่า ....
... จากการทราบข้อมูลในครอบครัวของนักเรียน (ว่า) ...การดำเนินชีวิตยังมีการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ... มีการซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่จำเป็นกันแทบทุกครัวเรือน ผักสวนครัวทั้งที่ปลูกเองได้ก็ไม่ปลูกทั้งที่มีพื้้นที่ว่าง ๆ อย่างข้างบ้าน ต้องซื้อแทบทุกอย่าง นักเรียนจำนวนมากไม่ค่อยรู้จักพืชผักสวนครัวและไม่เคยปลูก ไม่รู้ขั้นตอนการปลูก ทำให้ต้องซื้อจากตลาด ในการประกอบอาหารพืชผักสวนครัวบางอย่างซื้อมาแล้วต้องใช้เพียงเล็กน้อย ที่เหลือก็เหี่ยวแห้งทิ้งไป....
รายงานฉบับนี้บอกว่า
- เกือบทุกครัวเรือนซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย
- นักเรียนส่วนใหญ่ (แม้จะอยู่ในโรงเรียนนอกเมืองใหญ่) ไม่รู้จักพืชผักสวนครัว ปลูกไม่เป็น
- ซื้อผักจากตลาด ... (ซึ่งมีสารพิษ)
ลองพิจารณาข้อมูลจากโครงการอาหารและยา ที่บอกว่าประเทศไทย (อ่านจากที่นี่)
- มีพื้นที่เพาะปลูกมากเป็นอันดับที่ ๔๘ ของโลก
- ใช้ยาฆ่าหญ้ามากเป็นอันดับ ๔ ของโลก
- ใช้ยาฆ่าแมลงมากเป็นอันดับ ๕ ของโลก มากเป็นอันดับ ๑ ของอาเซียน
- เด็กเกิดพิการถึงร้อยละ ๘ ในขณะที่ยุโรปมีเพียงร้อยละ ๒
- ฯลฯ
และทุกท่านคงทราบกันดีว่า ขณะนี้ จำนวนผู้ป่วยด้วยมะเร็งร้ายเพิ่มขึ้นมากมายเพียงใด ดังนั้น เรื่องเร่งกด่วนที่สุดของประเทศนี้คือ เรื่องอาหารปลอดภัย ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องไปเริ่มที่โรงเรียน
โรงเรียนที่ขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ควรจะสร้างกระบวนการเรียนรู้ทักษะชีวิตอย่างจริงจัง ตามแนวทางที่ทรงแนะนำไว้ในพระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก คือ โรงเรียนปูทะเลย์มหาวิชชาลัย ... ผมกำลังค้นหาว่า มีโรงเรียนแบบนี้อยู่ที่ไหนบ้างในเมืองไทย ผมพบแล้วที่หนึ่ง คือ โรงเรียนบ้านหนองผือ ... จะไปดูให้เห็นกับตาสักวัน
โรงเรียนที่ขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ควรจะสร้างกระบวนการเรียนรู้ทักษะชีวิตอย่างจริงจัง ตามแนวทางที่ทรงแนะนำไว้ในพระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก คือ โรงเรียนปูทะเลย์มหาวิชชาลัย ... ผมกำลังค้นหาว่า มีโรงเรียนแบบนี้อยู่ที่ไหนบ้างในเมืองไทย ผมพบแล้วที่หนึ่ง คือ โรงเรียนบ้านหนองผือ ... จะไปดูให้เห็นกับตาสักวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น