ใครเป็นผู้เริ่มระบบให้เมื่อเติบใหญ่ถึงวัยหนุ่มสาว ทุกคนจะมาเรียนรวมกันในมหาวิทยาลัย จนทำให้ในรั้วมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยคนหนุ่มสาว ทิ้งวิถีชีวิตชุมชน ห่างไกลการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย ทั้งวันพบเห็นแต่ความหนุ่มควมสาว ความสวยความงาม สนุกสนานเพลิดเพลิน เหมือนในปราสาทสามฤดูที่พระเจ้าสุโทธนะ สร้างไว้ป้องกันไม่เจ้าชายสิทธัตถะได้พบกับเทวะฑูตทั้ง … จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่สังคมจะเสื่อมไปเรื่อย ๆ
ผมเข้าใจว่า การศึกษาตามแนวทางตะวันออกที่มุ่งยกระดับจิตวิญญาณและค้นหาสัจธรรม นักศึกษาจะจากเมืองไปสู่ป่า แต่การศึกษาตามแนวทางตะวันตก ที่มุ่งพัฒนาปัญญาฐานวัตถุด้วยวิทยาศาสตร์กายภาพ นักศึกษาจะจากป่าสู่เมือง
ดังนั้น … เราต้องทำความเข้าใจในเบื้องต้นตรงนี้ว่า การก้าวไปสู่ “การศึกษาไทย ๔.๐” …ก็เป็นเพียงความพยายามตามแนวทางตะวันตกอีกครั้งหนึ่งเท่านั้น…
การศึกษาไทย ๕.๐ ควรหันกลับมาเดินตามแนวทางตะวันออก ให้ความสำคัญกับชีวิตและการค้นหาสัจธรรมตั้งแต่ยังเยาวัย ขยายห้องเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยไปสู่ทุกที่ เรียนที่บ้าน ที่ชุมชน เรียนที่ถนน เรียนรู้ได้ทุกที่ และเน้นเรื่องการสร้างสรรค์นวัตกรรมแห่งความดีหรือการยกระดับจิตวิญญาณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น